5 เคล็ดลับเพิ่มยอดจองห้องพักผ่านเว็บไซต์โรงแรมโดยตรง

5 เคล็ดลับเพิ่มยอดจองห้องพักผ่านเว็บไซต์โรงแรมโดยตรง

การเพิ่มยอดจองผ่านเว็บไซต์โรงแรมโดยตรง (Direct Bookings) เป็นเป้าหมายสำคัญของผู้ประกอบการในยุคที่การแข่งขันด้านการท่องเที่ยวสูงขึ้น นอกจากจะช่วยลดต้นทุนค่าคอมมิชชั่นจากแพลตฟอร์ม OTA (Online Travel Agency) แล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าโดยตรง ทำให้คุณสามารถนำเสนอประสบการณ์ที่ตรงใจและเพิ่มความพึงพอใจของลูกค้าได้ ต่อไปนี้คือ 5 เคล็ดลับที่สามารถช่วยให้โรงแรมของคุณเพิ่มยอดจองโดยตรงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เลือกอ่านตามหัวข้อ

1.

เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ให้รองรับ SEO (Optimize Your Website for SEO)

2.

เสนอโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับการจองตรง (Promotions & Exclusive Benefits)

3.

ใช้ระบบจองที่ใช้งานง่าย (User-Friendly Booking System)

4.

เพิ่มความเชื่อมั่นผ่านรีวิวและการันตี (Build Trust with Reviews and Guarantees)

5.

ใช้การตลาดดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ (Leverage Digital Marketing)

1. เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ให้รองรับ SEO (Optimize Your Website for SEO)

การปรับแต่งเว็บไซต์ให้รองรับ SEO ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นของเว็บไซต์ในเครื่องมือค้นหาเช่นGoogle ซึ่งเป็นแหล่งสำคัญที่ลูกค้าใช้ในการค้นหาโรงแรมในปัจจุบัน การเลือกใช้คำหลัก (Keywords) ที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญ คุณควรเริ่มต้นด้วยการสำรวจคำที่ลูกค้ามักใช้ในการค้นหา เช่น “โรงแรมใกล้ชายหาดราคาพิเศษ” หรือ “จองโรงแรมกรุงเทพ” นำคำเหล่านี้มาใส่ในหัวข้อ คำอธิบาย และเนื้อหาสำคัญบนเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องที่สุด นอกจากนี้ การใช้เครื่องมืออย่าง Google Keyword Planner หรือ Ahrefs จะช่วยให้คุณวิเคราะห์คำหลักและสร้างกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น คุณยังสามารถสร้างหน้าเพจเฉพาะสำหรับคำหลักที่สำคัญ เช่น หน้าที่เกี่ยวกับ “โรงแรมใกล้ชายหาด” หรือ “ที่พักใกล้สนามบิน” เพื่อเพิ่มความตรงเป้าหมายของการค้นหา

ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ เว็บไซต์ที่โหลดช้าจะทำให้ลูกค้าออกจากหน้าเว็บก่อนที่จะทำการจอง วิธีปรับปรุงความเร็วเว็บไซต์มีหลายวิธี เช่น การบีบอัดรูปภาพด้วยเครื่องมืออย่าง TinyPNG หรือ ShortPixel การใช้ระบบแคช (Cache System) เพื่อช่วยลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บ รวมถึงการตรวจสอบและอัปเกรดแพ็คเกจโฮสติ้ง หากพบว่าโฮสติ้งปัจจุบันไม่รองรับการใช้งานที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากนี้ การออกแบบเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานบนมือถือก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ เนื่องจากปัจจุบันลูกค้าส่วนใหญ่ใช้มือถือในการค้นหาและจองโรงแรม การออกแบบเว็บไซต์ให้เป็นแบบ Responsive Design ที่สามารถปรับเข้ากับหน้าจอทุกขนาดจะช่วยให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์ที่ดี ตรวจสอบว่าปุ่มและลิงก์ต่าง ๆ บนหน้าจอมือถือใช้งานได้สะดวก รวมถึงทำการทดสอบบนอุปกรณ์หลากหลายประเภทเพื่อให้มั่นใจว่าเว็บไซต์สามารถทำงานได้ดีในทุกแพลตฟอร์ม

โครงสร้างของเว็บไซต์ (Site Structure) ควรถูกออกแบบให้ชัดเจนและง่ายต่อการเข้าถึง ทั้งสำหรับผู้ใช้งานและเครื่องมือค้นหา URL ควรเป็นแบบที่เข้าใจง่าย เช่น “www.hotelname.com/rooms/beach-view” และเพิ่มเมนูนำทางที่มีการจัดหมวดหมู่อย่างเหมาะสมชัดเจน พร้อมทั้งเพิ่ม Breadcrumbs เพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถกลับไปยังหน้าเดิมได้สะดวก

สุดท้ายนี้ การเพิ่ม Metadata และ Tag ที่เกี่ยวข้องก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม การเขียน Title Tag และ Meta Description ที่มีคำหลักสำคัญและน่าสนใจจะช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในหน้าแรกของ Google ตัวอย่างเช่น การเขียน Title ว่า “จองโรงแรมในกรุงเทพ | ราคาพิเศษสำหรับจองตรง” หรือใช้ Meta Description ที่สั้นและชัดเจน เช่น “พบกับข้อเสนอสุดพิเศษสำหรับการจองตรงผ่านเว็บไซต์โรงแรมของเรา” จะช่วยดึงดูดให้ผู้ใช้งานคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ของคุณได้มากยิ่งขึ้น

2. เสนอโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษสำหรับการจองตรง (Promotions & Exclusive Benefits)

การมอบข้อเสนอพิเศษสำหรับการจองตรงถือเป็นวิธีสำคัญที่ช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกจองห้องพักผ่านเว็บไซต์โรงแรมของคุณแทนที่จะใช้บริการ OTA การสร้างโปรโมชั่นที่ดึงดูดใจเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้ผล เช่น การเสนอส่วนลดพิเศษ 10-15% สำหรับลูกค้าที่จองตรงผ่านเว็บไซต์ หรือเพิ่มสิทธิพิเศษเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มความน่าสนใจ เช่น การอัปเกรดห้องพักฟรี บริการเช็คอินก่อนเวลา หรืออาหารเช้าฟรี นอกจากนี้ การออกโปรโมชั่นตามฤดูกาล เช่น “พัก 3 คืน จ่ายเพียง 2 คืน” ในช่วงโลว์ซีซั่น ยังช่วยดึงดูดลูกค้าในช่วงที่มีอัตราการเข้าพักต่ำได้เป็นอย่างดี

การใช้ข้อความที่กระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจจองทันทีเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ การสร้างข้อความที่ตรงประเด็นและชัดเจน เช่น “จองตรงกับเราวันนี้ รับข้อเสนอพิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่น!” หรือ “จองตอนนี้ รับส่วนลดเพิ่มอีก 5% เมื่อใส่โค้ดโปรโมชั่น!” ช่วยสร้างแรงกระตุ้นและเร้าใจให้ลูกค้ารู้สึกว่าพวกเขาได้รับความคุ้มค่าและโอกาสพิเศษที่ไม่ควรพลาด

การแสดงโปรโมชั่นบนหน้าแรกของเว็บไซต์เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มการมองเห็นและสร้างความสนใจให้กับลูกค้าทันทีเมื่อพวกเขาเข้าสู่เว็บไซต์ การใช้แบนเนอร์ขนาดใหญ่ที่มีการออกแบบสวยงามและข้อความที่ดึงดูดช่วยสร้างความประทับใจแรกพบ หรือเพิ่ม Pop-up แจ้งเตือนเกี่ยวกับข้อเสนอพิเศษทันทีที่ลูกค้าเยี่ยมชมเว็บไซต์ อีกทั้งการแสดงนับถอยหลัง (Countdown Timer) สำหรับโปรโมชั่นที่มีเวลาจำกัดยังช่วยสร้างความรู้สึกเร่งด่วนและกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจได้เร็วขึ้น

การโปรโมตข้อเสนอผ่านช่องทางอีเมลและโซเชียลมีเดียก็เป็นวิธีที่ช่วยให้ข้อมูลโปรโมชั่นของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างกว้างขวางและรวดเร็ว คุณสามารถส่งอีเมลโปรโมชั่นให้กับลูกค้าเก่า เช่น “ขอบคุณที่เคยพักกับเรา รับส่วนลดพิเศษสำหรับการเข้าพักครั้งถัดไป!” หรือแชร์ข้อเสนอพิเศษผ่าน Facebook, Instagram และ TikTok พร้อมรูปภาพหรือวิดีโอที่ดึงดูดสายตาและน่าสนใจ

นอกจากนี้ การให้รางวัลลูกค้าประจำผ่านโปรแกรมสะสมคะแนนหรือสิทธิพิเศษอื่น ๆ ยังช่วยเสริมความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า ตัวอย่างเช่น การสะสมแต้มเพื่อแลกรับห้องพักฟรี หรือการมอบสิทธิ์อัปเกรดห้องพักสำหรับลูกค้าที่จองซ้ำ สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความพึงพอใจและกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาจองผ่านเว็บไซต์ของคุณในอนาคต

3. ใช้ระบบจองที่ใช้งานง่าย (User-Friendly Booking System)

ระบบการจอง (Hotel Booking Engine) ที่ใช้งานง่ายมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า เพราะช่วยลดความซับซ้อนและทำให้ลูกค้ารู้สึกสะดวกสบายในการจองห้องพักผ่านเว็บไซต์โรงแรมของคุณ การออกแบบระบบจองควรเน้นความเรียบง่ายและชัดเจน โดยลดจำนวนขั้นตอนการจองให้น้อยที่สุด พร้อมทั้งกำหนดข้อมูลที่ลูกค้าต้องกรอกให้อยู่ในขอบเขตที่จำเป็นเท่านั้น การใช้แบบฟอร์มที่มี Placeholder Text ช่วยแนะนำวิธีกรอกข้อมูลและเพิ่มแถบแสดงความคืบหน้า (Progress Bar) ช่วยให้ลูกค้ารับรู้ว่าการจองของพวกเขาอยู่ในขั้นตอนไหน นอกจากนี้ ควรมีปุ่ม “ย้อนกลับ” และ “ไปต่อ” เพื่อความสะดวกในการแก้ไขข้อมูลหากจำเป็น

ระบบจองควรรองรับหลายภาษาและสกุลเงิน เพื่อรองรับลูกค้าจากหลากหลายประเทศ การเพิ่มตัวเลือกภาษาต่าง ๆ เช่น ไทย อังกฤษ และจีน จะช่วยให้ลูกค้าใช้งานระบบได้ง่ายขึ้น ในขณะเดียวกัน การแสดงราคาในสกุลเงินที่ลูกค้าคุ้นเคย เช่น บาท (THB) ดอลลาร์สหรัฐ (USD) หรือยูโร (EUR) พร้อมระบบอัปเดตอัตราแลกเปลี่ยนอัตโนมัติ จะช่วยสร้างความมั่นใจและลดความสับสนให้กับลูกค้าต่างชาติ

อีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญคือการเพิ่มตัวเลือกการชำระเงินที่หลากหลาย ระบบจองควรรองรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิต พร้อมเพย์ e-wallet เช่น TrueMoney หรือ PayPal และหากสามารถเพิ่มระบบการแบ่งชำระหรือการชำระเงินล่วงหน้าบางส่วนได้(Partial Payment) ก็จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับลูกค้า การแสดงข้อความยืนยันการชำระเงินทันทีหลังธุรกรรมสำเร็จยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าได้อย่างดี

ความปลอดภัยเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม การแสดงสัญลักษณ์รับรองความปลอดภัย เช่น SSL Certificates หรือ PCI DSS Compliance ช่วยสร้างความเชื่อมั่นในระบบจองของคุณ นอกจากนี้ การเพิ่มข้อความยืนยัน เช่น “ข้อมูลของคุณปลอดภัยกับเรา” หรือ “การชำระเงินปลอดภัยด้วยระบบเข้ารหัส” พร้อมใช้ระบบ OTP (One-Time Password) หรือการยืนยันตัวตนแบบสองขั้นตอน (Two-Factor Authentication) สำหรับธุรกรรมที่สำคัญ จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องความปลอดภัยให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ ฟีเจอร์เสริมที่ดึงดูดใจ เช่น ระบบแสดงความพร้อมใช้งานของห้องพักแบบเรียลไทม์ (Real-Time Availability) และคำอธิบายห้องพักที่ชัดเจนพร้อมรูปภาพที่สวยงาม จะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจข้อเสนอและสิ่งอำนวยความสะดวกของโรงแรมได้ง่ายขึ้น การใส่รีวิวและคะแนนความพึงพอใจของลูกค้าในหน้าการจองยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและสนับสนุนการตัดสินใจของลูกค้า

4. เพิ่มความเชื่อมั่นผ่านรีวิวและการันตี (Build Trust with Reviews and Guarantees)

ความไว้วางใจเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจจองห้องพัก ลูกค้าส่วนใหญ่มักค้นหารีวิวหรือข้อมูลที่ช่วยยืนยันคุณภาพของโรงแรมก่อนตัดสินใจ ระบบรีวิวที่น่าเชื่อถือและการันตีคุณภาพจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เข้าพัก การรวบรวมรีวิวจากลูกค้าจริงและแสดงไว้ในจุดที่ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย เช่น หน้าแรกของเว็บไซต์หรือหน้ารายละเอียดห้องพัก จะช่วยสร้างความประทับใจได้ตั้งแต่แรกพบ รีวิวที่เลือกแสดงควรเน้นถึงจุดเด่นของโรงแรม เช่น ความสะอาด บริการที่เป็นเลิศ หรือทำเลที่สะดวก โดยสามารถนำรีวิวจากแพลตฟอร์มชื่อดังอย่าง Google, TripAdvisor หรือ Booking.com มาใช้ได้ นอกจากนี้ การเพิ่มฟีเจอร์ที่ช่วยให้ลูกค้าเขียนรีวิวผ่านเว็บไซต์ของคุณโดยตรง จะช่วยสร้างฐานข้อมูลรีวิวที่เฉพาะเจาะจงสำหรับโรงแรมของคุณเอง

การแสดงการันตีคุณภาพผ่านตราสัญลักษณ์หรือรางวัล เช่น “Traveler’s Choice Award” หรือ “Certificate of Excellence” ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ คุณอาจเพิ่มข้อความรับประกัน เช่น “เราการันตีความสะอาดและปลอดภัย” หรือ “พักกับเราพร้อมบริการระดับ 5 ดาว” เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจยิ่งขึ้น

นอกจากรีวิวและการันตีคุณภาพแล้ว การแสดงการรับประกันราคาที่ดีที่สุด (Best Price Guarantee) ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า คุณสามารถเพิ่มข้อความรับประกัน เช่น “จองตรงผ่านเว็บไซต์ รับประกันราคาที่ดีที่สุด หากพบราคาถูกกว่าบนแพลตฟอร์มอื่น เรายินดีคืนส่วนต่าง” พร้อมทั้งอธิบายเงื่อนไขการรับประกันให้ชัดเจน การแสดงข้อความเหล่านี้บนหน้าแรกของเว็บไซต์หรือในขั้นตอนการจอง จะช่วยให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจว่าพวกเขาได้รับข้อเสนอที่คุ้มค่าที่สุด

การเพิ่มรูปภาพและวิดีโอที่ลูกค้าถ่ายเองลงในเว็บไซต์ของคุณ จะช่วยให้ภาพลักษณ์ของโรงแรมดูสมจริงและเป็นธรรมชาติ คุณสามารถขออนุญาตใช้ภาพถ่ายหรือวิดีโอที่ลูกค้าแชร์บนโซเชียลมีเดีย เช่น Instagram หรือ Facebook เพื่อแสดงถึงประสบการณ์ที่แท้จริงของผู้เข้าพัก การใช้ภาพจากลูกค้าจริงควบคู่กับภาพที่ถ่ายโดยช่างภาพมืออาชีพจะช่วยเสริมความน่าเชื่อถือได้เป็นอย่างดี

การตอบกลับรีวิวทุกความคิดเห็นไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นในเชิงบวกหรือเชิงลบอย่างมืออาชีพก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยสร้างความเชื่อมั่น การขอบคุณลูกค้าที่ให้รีวิวในเชิงบวกพร้อมแสดงความตั้งใจที่จะรักษามาตรฐานการบริการเป็นสิ่งสำคัญ สำหรับความคิดเห็นเชิงลบ การแสดงความเสียใจพร้อมอธิบายถึงวิธีการแก้ไขปัญหาจะช่วยแสดงถึงความใส่ใจและความจริงใจของโรงแรม

หากเป็นไปได้ การสร้างฟีเจอร์รีวิวแบบเรียลไทม์ เช่น ระบบแชทสดที่เปิดให้ลูกค้าแสดงความคิดเห็นทันทีหลังจากใช้บริการ หรือเมื่อเช็คเอาท์ จะช่วยเก็บความคิดเห็นสดใหม่ที่มีคุณค่าสำหรับการพัฒนาบริการในอนาคต และเพื่อสร้างความมั่นใจในระหว่างขั้นตอนการจอง คุณสามารถแทรกข้อความรีวิวเด่น ๆ ลงในหน้ารายละเอียดห้องพัก หรือในหน้าสรุปขั้นตอนสุดท้ายก่อนการชำระเงิน รีวิวเหล่านี้จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจจองได้ง่ายขึ้นและรวดเร็วขึ้น

5. ใช้การตลาดดิจิทัลอย่างมีประสิทธิภาพ (Leverage Digital Marketing)

ในยุคดิจิทัล การตลาดออนไลน์เป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาที่เว็บไซต์โรงแรมของคุณและสร้างความสนใจจนเกิดการจองอย่างมีประสิทธิภาพ การเริ่มต้นด้วยการใช้โฆษณาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ เช่น Google Ads จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณปรากฏในผลการค้นหาเมื่อผู้ใช้ค้นหาคำที่เกี่ยวข้อง เช่น “โรงแรมใกล้ฉัน” หรือ “จองโรงแรมในกรุงเทพฯ” โฆษณาเหล่านี้สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายเฉพาะได้ และยังช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้อีกด้วย นอกจากนี้ การใช้โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram เป็นอีกช่องทางที่ทรงพลังในการเจาะกลุ่มเป้าหมายที่สนใจการท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อคุณเลือกใช้ Dynamic Ads ที่แสดงข้อเสนอพิเศษเฉพาะบุคคลตามพฤติกรรมการค้นหาของลูกค้า

การสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า (Content Marketing) เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์อย่างยั่งยืน คุณสามารถเขียนบล็อกเกี่ยวกับแหล่งท่องเที่ยวใกล้โรงแรม กิจกรรมที่น่าสนใจในพื้นที่ หรือเคล็ดลับการเดินทางที่เป็นประโยชน์แก่ผู้เข้าพัก การทำวิดีโอรีวิวโรงแรมหรือการไลฟ์สดเพื่อแสดงสถานที่และบรรยากาศจริงยังช่วยสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าอีกด้วย หากคุณต้องการนำเสนอข้อมูลที่เข้าใจง่าย การใช้ Infographic แสดงตารางเปรียบเทียบราคาและข้อเสนอพิเศษเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ

สำหรับการตลาดผ่านอีเมล (Email Marketing) การส่งอีเมลแจ้งโปรโมชั่นหรือแพ็กเกจพิเศษให้กับลูกค้าเก่าหรือผู้ที่เคยลงทะเบียนในเว็บไซต์เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การใช้ระบบ Automation ในการส่งอีเมลติดตามลูกค้าที่ออกจากหน้าจองโดยยังไม่ได้ทำการจอง (Abandoned Cart Emails) สามารถช่วยกระตุ้นให้พวกเขากลับมาทำรายการจองได้

กลยุทธ์ SEO เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการตลาดดิจิทัล คุณสามารถเพิ่มคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง เช่น ชื่อเมือง จุดท่องเที่ยว หรือคำค้นหายอดนิยมลงในเนื้อหาบนเว็บไซต์ รวมถึงสร้างหน้า Landing Page ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายเฉพาะ เช่น หน้า “โรงแรมสำหรับครอบครัว” หรือ “โรงแรมสำหรับการประชุม” เพื่อเพิ่มโอกาสในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่

นอกจากนี้คุณสามารถทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย โดยการโพสต์รูปภาพและวิดีโอที่แสดงถึงความพิเศษของโรงแรม เช่น อาหาร วิวห้องพัก หรือกิจกรรมพิเศษ พร้อมทั้งสร้างแคมเปญ Hashtag Challenge เพื่อกระตุ้นให้ผู้เข้าพักแชร์ประสบการณ์และเพิ่มการมองเห็นแบรนด์ของคุณ การตอบกลับข้อความและคอมเมนต์ของลูกค้าอย่างรวดเร็วจะช่วยสร้างความสัมพันธ์และเพิ่มความประทับใจแก่ผู้ที่ติดตาม

สำหรับลูกค้าที่เคยเข้าชมเว็บไซต์แต่ยังไม่ได้ทำการจอง การใช้โฆษณารีมาร์เก็ตติ้ง (Remarketing) เพื่อติดตามลูกค้าเหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการกลับมาจองอีกครั้ง คุณสามารถเสนอโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะสำหรับลูกค้ากลุ่มนี้ เช่น ส่วนลดเพิ่มเติมหรือของขวัญพิเศษเมื่อจองภายในระยะเวลาที่กำหนด

สุดท้ายนี้ การวิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับปรุงกลยุทธ์อย่างต่อเนื่องเป็นสิ่งสำคัญ คุณสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Google Analytics หรือ Facebook Insights เพื่อตรวจสอบผลการดำเนินงานของแคมเปญ และทดสอบวิธีการต่าง ๆ เช่น A/B Testing เพื่อหาวิธีที่เหมาะสมที่สุดในการเพิ่มประสิทธิภาพของการตลาดดิจิทัลสำหรับโรงแรมของคุณ

พร้อมเริ่มต้นเพิ่มยอดจองผ่านเว็บไซต์โรงแรมของคุณ?

หากคุณกำลังมองหาระบบจองออนไลน์ที่ช่วยให้คุณบริหารจัดการง่าย พร้อมฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ลูกค้าในยุคดิจิทัล สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ คลิกที่นี่

แชร์บทความ

บทความล่าสุด